สมัครสมาชิก
Forgot Password
ช่องทางรับข่าวสาร
more
แบบสำรวจความคิดเห็น

ท่านมีความพึงพอใจต่อเว็บไซต์สำนักโรคติดต่อทั่วไปในระดับใด?

ประวัติสำนัก 16 ก.ค. 2558 - 75 ครั้ง

40  ปี สำนักโรคติดต่อทั่วไป

          การควบคุมโรคนับเป็นภารกิจแรกที่วงการสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญ  ก่อนการจัดตั้งกรมสาธารณสุข  จวบจนเมื่อวันที่  10  มีนาคม  พ.ศ. 2485   ได้สถาปนากระทรวงสาธารณสุขขึ้น  ซึ่งยังคงมีงานการควบคุมโรคในสังกัดในกองควบคุมโรค  อยู่ในกรมสาธารณสุข  ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นกรมอนามัย  ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เปลี่ยนชื่อกระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงสาธารณสุข  เมื่อวันที่  1  มีนาคม  2495  และได้เปลี่ยนชื่อจากกองควบคุมโรคติดต่อ  ต้องเผชิญกับการระบาดของโรคติดต่อทั้งประเภทอันตรายและโรคติดต่อสำคัญบางโรคที่สามารถควบคุมโรคได้ และบางโรคหมดไปจากประเทศไทย  ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจกับชาวกองควบคุมโรคติดต่อเป็นอย่างยิ่ง อาทิเช่น โรคไข้ทรพิษ  ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายที่เคยระบาดในประเทศไทยเป็นเวลายาวนาน และมีการระบาดเคียงคู่กันมากับอหิวาตกโรค มีการจัดทำโครงการกำจัดดรคไข้ทรพิษ โดยการสนับสนุนขององค์กรอนามัยโรค เริ่มมนช่วงปี พ.ศ.2504-2508 โดยใช้มาตรการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษให้แก่ประชาชนทั่วประเทศและประสบผลสำเร็จเมื่อเดือนมกราคม 2505 ไม่พบผู้ป่วยไข้ทรพิษเกิดขึ้นในประเทศเลย และยุติการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ เมื่อปี 2523 สำหรับโรคกาฬโรคเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถควบคุมการระบาดของโรค โดยมีการตั้งหน่วยงานควบคุมกาฬโรคขึ้น 3 หน่วยงานในจังหวัดราชบุรี,นครราชสีมา, นครสวรรค์, ใช้มาตรการสำคัญคือปรับปรุงอาคารที่อยู่อาศัยให้สะอาด พ่นดีดีที ตามบ้านเรือน และดักหนูหรือวางยาเบื่อหนูเพื่อกำจัดหนูที่เป็นแหล่งโรคที่สำคัญบางครั้งต้องเผาอาคารบ้านเรือนทำด้วยไม้ไผ่และรกรุงรังเพื่อกำจัดหนู ตั้งแต่ปี 2496 เป็นต้นมา ไม่พบโรคกาฬโรค

          นอกจากนั้นยังควบคุมความรุนแรงของโรคอหิวาตกโรคระบาดที่ร้ายแรงให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นปัญหาสาธารณสุขได้ โดยเฉพาะที่อำเภอปากพนัง  จังหวัดนครศรีธรรมราช  ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนในการควบคุมโรคได้จนสงบ  และในพื้นที่ตำบลดอนมโนราห์  จังหวัดสมุทรสงคราม

          ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงด้านบริหารจัดการ  เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2517  ได้สถาปนากรมควบคุมโรคติดต่อขึ้นแยกจากกรมอนามัย  โดยมีนายแพทย์ชม  เทพยสุวรรณ

 
เป็นอธิบดีคนแรก  ซึ่งเป็ฯช่วงเวลาเดียวกันับการที่ระบบบริหารราชการกระทรวงได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ  งานควบคุมป้องกันโรคติดต่อต่างๆ ได้ถูกกระจายอยู่ในหน่วยงานระดับกองต่างๆ  ส่วนงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งยังไม่มีหน่วยงานรองรับชัดเจน  จึงถูกนำรวมเข้ามาอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของกองโรคติดต่อทั่วไป  ได้แก่ งานควบคุมป้องกันโรคอุจจาระร่วง  งานควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน  งานควบคุมโรคไข้เลือดออก  งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน  งานโรคหนอนพยาธิ  งานด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ  เป็นต้น  กองโรคติดต่อทั่วไป  จึงถือกำเนิดขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมควบคุมโรคติดต่อ  กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2517  เมื่อวันที่ 3  ธันวาคม 2517  โดยมีแพทย์หญิงภัทรพร  ชำนาญกิจ  ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเป็นคนแรกและต่อมาได้มีผู้อำนวยการกองที่ทำหน้าที่บริหารงานก่อนมีการปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงสาธารณสุข   ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ.2545  จำนวน  6  คน ได้แก่

  1. แพทย์หญิงภัทรพร  ชำนาญกิจ
  2. นายแพทย์คติ        จิรยุส
  3. นายแพทย์วิชิต      มธุรสภาษณ์
  4. นายแพทย์สมพร     พฤษราช
  5. นายแพทย์อุเทน     จารณสี
  6. นายแพทย์ศุภมิตร   ชุณห์สุทธิวัฒน์

จากนั้นต่อมาเมื่อมีการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ.2545  กรมควบคุมโรคติดต่อจึงได้รับการปฏิรูปเป็นกรมควบคุมโรค  เมื่อวันที่ 9  ตุลาคม 2545  และได้เปลี่ยนแปลงกองโรคติดต่อทั่วไปเป็นสำนักโรคติดต่อทั่วไป  ตามพระราชกฤษฎีกาที่ 19  ตอนที่ 103 ก.  ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป จนถึงปัจจุบัน  จำนวน 3  ท่านดังนี้

  1. นายแพทย์ศิริศักดิ์   วรินทราวาท
  2. นายแพทย์โอภาส    การย์กวินพงศ์
  3. นายแพทย์รุ่งเรือง    กิจผาติ

พัฒนาการการควบคุมป้องกันโรคติดต่อทั่วไป 

          พ.ศ.2518 – 2524   เป็นช่วงที่ แพทย์หญิงภัทรพร  ชำนาญกิจ
 


ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองท่านแรก นับเป็นช่วงที่มีการสร้างงานใหม่และสานงานเก่า  นับเป็นยุคบุกเบิกของการวางแนวทางการควบคุมป้องกันโรคติดต่อทั่วไป  ลักษณะของการทำงานในสมัยนั้นเป็นลักษณะของ  Vertical Program  ซึ่งมีรูปแบบการบริหารงานที่ส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารจัดการ  รวมทั้งสนับสนุนปฏิบัติการแก่หน่วยงานส่วนภูมิภาค  คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ  โยมีหน่วยงานประสานงานและปฏิบัติการในส่วนภูมิภาค  คือ  ศูนย์โรคติดต่อทั่วไปภาค ซึ่งมีทั้งหมด 4 ศูนย์ภาค  คือ  ศูนย์โรคติดต่อทั่วไปภาคเหนือ  อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์  ศูนย์โรคติดต่อทั่วไปภาคกลางอยู่ที่จังหวัดราชบุรี  ศูนย์โรคติดต่อทั่วไปภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ จังหวัดนครราชสีมา  และศูนย์โรคติดต่อทั่วไปภาคใต้ อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  ระยะนั้นดำเนินการควบคุมป้องกันโรค  ใน 4 รูปแบบ คือ

          1. รูปแบบของการสาธิตเชิงปฏิบัติการให้กับเทศบาล และสุขาภิบาล และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  ซึ่งรูปแบบนี้มี 2  งาน  คือ งานควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า และงานควบคุมโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีวัตถุประสงค์  เพื่อสนับสนุนให้ท้องถิ่น และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสามารถควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่ได้ด้วยตนเอง  เริ่มตั้งแต่การสาธิตปฏิบัติการในท้องถิ่น และให้ท้องถิ่นจัดหาบุคลากรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงาน  อาทิ  เช่น  ในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์  โดยส่วนกลาง จัดหาอุปกรณ์ปืนยิงสลบสัตว์  สำหรับการควบคุมโรคไข้เลือดออก  ท้องถิ่นจัดซื้อเครื่องพ่นน้ำยา  ส่วนกองโรคติดต่อทั่วไปจัดหาน้ำยาฆ่ายุงสนับสนุนและดูแลอุปกรณ์ปฏิบัติ

          2. รูปแบบของการค้นหาบำบัดรักษา  ได้แก่  การค้นหาผู้ป่วยโรคหนอนพยาธิในประชาชน และให้การบำบัดรักษาโดยการแจกจ่ายยาที่ใช้ในการถ่ายพยาธิ  ทั้งในกลุ่มประชาชนและนักเรียน

          3. รูปแบบในการควบคุมป้องกันโรคเชิงรุก  ได้แก่  อหิวาตกโรคหรือโรคอุจจาระร่วงอย่างแรง  โดยจัดหน่วยงานปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค  และมีการใช้  ORS  เพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่ในโรงพยาบาลต่างๆ โดยจัดทำมุมการรักษา  ที่เรียกว่า ORT Corner  และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค  โดยมี EPI program เกิดขึ้น  ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน

          4. รูปแบบงานชำนาญเฉพาะด้าน  ซึ่งปฏิบัติโดยบุคลากรเฉพาะ  คือ  การเฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่างประเทศ  โยมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ   เช่น  ด่านที่สนามบินดอนเมือง  ด่านสะเดา  ด่านจังโหลน และด่านท่าเรือ

ตัวอย่างผลงานขณะนั้น ได้แก่ 

  1. จัดทีมสาธิตเชิงปฏิบัติการของโรคพิษสุนัขบ้า และไข้เลือดออกให้กับเทศบาลจำนวน 118 แห่งสุขาภิบาล            แห่ง  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  จำนวน  70  จังหวัด
  2. สนับสนุนเวชภัณฑ์ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุขบ้าในคน ชนิดผลิตจากสมองสัตว์ ได้แก่ Semple Vaccine และ SMBV สนับสนุน ORS สนับสนุนสารกำจัดแลงใช้กับเครื่องพ่นเวชภัณฑ์การบำบัดหนอนพยาธิ ได้แก่ Combantin Mebendazole Albendazole และวัคซีน EPI ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อทำวัคซีนพื้นฐานให้เด็ก
  3. จัดทีมควบคุมโรค  เมื่อเกิดการะบาดของโรคโดยเฉพาะโรคอหิวาตกโรค
  4. เป็นศูนย์กลางจัดหาอุปกรณ์การกำจัดสุนัขและเครื่องพ่นสารเคมีของโรคไข้เลือดออกและซ่อมบำรุงและวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์
  5.  พัฒนาบุคลากร และการสุขศึกษา เริ่มมีแผนงาน EPI ของประเทศไทย เพื่อให้วัคซีนพื้นฐานในเด็ก
  6. พัฒนาระบบห่วงลูกโซ่ความเย็นในการสนับสนุนวัคซีน (Cold Chain)

ช่วง พ.ศ. 2524 – 2525  มี นายแพทย์คติ  จิรยุส 


เป็นผู้อำนวยการและ พ.ศ. 2525 – 2526  มีนายแพทย์วิชิต  มธุรสภาษณ์  เป็นผู้อำนวยการ  ในระยะเวลานี้  เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการที่สร้างระบบการบริหารจัดการ  และการรักษางานเดิม  และเริ่มมีการจัดระบบของด่านควบคุมโรคชัดเจนนั้น   โดยในระยะแรกแพทย์ในส่วนกลางจะทำหน้าที่เป็นแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง  แต่เนื่องจากแพทย์มีจำนวนจำกัด  จึงมีการจัดระบบให้นักวิชาการสาธารณสุขและเจ้าพนักงานสาธารณสุขร่วมทำหน้าที่แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองภายใต้การดูแลควบคุมของแพทย์ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมโรคระหว่างประเทศ

จนถึง พ.ศ. 2526 – 2531  นายแพทย์สมพร  พฤกษราช 


ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ  ต่อมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรค  เป็นยุคที่เริ่มต้นของการจัดการบริหารงานโดยมีแผนงานรองรับซึ่งเป็นระยะที่มีการจัดตั้ง  ศูนย์ประสานงานทางวิชาการ (ศวต)  ที่ส่วนกลางและศูนย์ประสานงานวิชาการระดับเขต  จำนวน  12  เขต  กรมควบคุมโรคติดต่อ ในปี พ.ศ. 2526  มีการระบาดของโรคหัดเยอรมันขึ้น        มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น  จึงเริ่มมีการใช้วัคซีนไข้หัดเยอรมันในเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6  เป้นครั้งแรก  ในปี พ.ศ. 2529 ในปี พ.ศ. 2528  มีการบูรณาการ (Integrate) งานควบคุมโรคติดต่อทั่วไปเข้าสู่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข  จึงทำให้งานควบคุมโรคติดต่อทั่วไปเริ่มต้นพัฒนาขึ้นในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และประกอบกับกรมควบคุมโรคได้ยกฐานะศูนย์ประสานงานทางวิชาการระดับเขต (สคต.) 1-12  โดยในช่วงเดียวกันนี้  กองโรคติดต่อทั่วไปได้รับความช่วยเหลือจาก GTZ  (ไทย-เยอรมัน) ได้ให้การสนับสนุนการควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับในประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พ.ศ. 2532 – 2534  สมัย นายแพทย์อุเทน  จารณศรี 


ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกอง  ต่อมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อและผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขในเวลาต่อมาได้มีการมุ่งเน้นการพัฒนาวิชาการส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัยมากขึ้น  มีการนำวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคน  ชนิดผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยง (Tissue Culter) ฉีดป้องกันผู้สัมผัสโรค 5 ครั้งมาใช้แทนวัคซีน ผลิตจากสมองแกะและสมองหนู  (Semple Vaccine และ Suckling Mouse brain vaccine)  ซึ่งฉีด 17-24  เข็ม และได้เริ่มการนำวัคซีนป้องกันตับอักเสบบีมาใช้ในแผนงาน EPI

พ.ศ. 2535 – 2543  ช่วงนี้มี นายแพทย์ศุภมิตร  ชุณห์สุทธิวัฒน์ 


เป็นผู้อำนวยการ ต่อมาดำรงตำแหน่งเป้นผู้ทรงคุณวุฒิฯ กรมควบคุมโรค  เป็นช่วงที่มีการปรับเปลี่ยนหลายเรื่อง  คือ  การย้ายที่อยู่ใหม่จากวังเทวะเวสม์  มาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี  ตามการเคลื่อนย้ายของกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ.2537) ปรับโครงสร้างการบริการจัดการภายในกรมควบคุมโรคติดต่อ  จากการแบ่งงานเป็นกลุ่มโรค (Disease Oreinted) เป็นหลัก  เป็นการทำงานตามภารกิจ (Functional Oreinted) มากขึ้น  กองโรคติดต่อทั่วไปจึงจัดแบ่งงานเป็นกลุ่มวิชาการ  กลุ่มสนับสนุนปฏิบัติการ  กลุ่มพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ  กลุ่มไข้เลือดออก  กลุ่มเภสัชกรรมและฝ่ายบริการงานทั่วไป (พ.ศ.2538) แต่หลังจากที่มีการแบ่งงานภายในเช่นนี้อยู่ประมาณ 1 ปี ก็ได้รปับกลับสู่การแบ่งงานตามกลุ่มโรคเป็นหลักอีก และในช่วงนี้จะมีการเรียนรู้เรื่องการบริหารแผนงานมากที่สุดโดยมีการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) ยุทธศาสตร์ (Strategic) เป็นต้น และเป็นยุคเริ่มต้นของการทำแผนตามยุทธศาสตร์ การเปลี่ยนที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนความรับผิดชอบงานป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ.2535 และเป็นจุดเริ่มต้นการทำงานลักษณะการประสานอย่างใกล้ชิด ระหว่างกรมปศุสัตว์และกรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด One Health ในปัจจบัน นอกจากนี้ได้ขยายการให้วัคซีนตับอักเสบบีครอบคลุมทั่วประเทศตามแผนงาน EPI และเนื่องจากมีการระบาดของโรคเลปโตสไปโรสิส (2539-2544) จึงได้มีการจัดตั้งโครงการโรคเลปโตสไปโรสิส ภายใต้การดูแลพัฒนาของผู้ทรงคุณวุฒิ ขณะนั้นคือ นายแพทย์องอาจ วชิรพันธุ์สกุล และได้จัดตั้งกลุ่มโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำขึ้น ในกองโรคติดต่อทั่วไป ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ ในปัจจุบัน

พ.ศ.2543-2551 ยุคที่มี นายแพทย์ศิริศักดิ์ วรินทราวาท


เป็นผู้อำนวยการกอง ต่อมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรค เมื่อมีการปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 4 (พ.ศ.2545) กรมควบคุมโรคติดต่อได้ปรับเปลี่ยนเป็นกรมควบคุมโรค และยกฐานะกองต่างๆ จากกองวิชาการเป็นสำนักวิชาการ

เมื่อกองโรคติดต่อทั่วไป ได้ปรับเปลี่ยนเป็นสำนักโรคติดต่อทั่วไป นายแพทย์ศิริศักดิ์ วรินทราวาท จึงเป็นผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไปท่านแรก จากการปฏิรูปโครงสร้างนี้ สำนักงานควบคุมโรคติดต่อเขต ถูกยกฐานะเป็นสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต ในยุคนี้จึงมีการคปรับเปลี่ยนการปฏิบัติงานภายในสำนักอย่างมาก โดยการทำงานมุ่งเน้นการพัฒนาวิชาการ เพื่อสร้างผลผลิตสู่ลูกค้าโดยคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นหลัก ดังนั้นจึงมีการประสานงานและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างสำนักโรคติดต่อทั่วไปและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต เพื่อนำผลผลิตสู่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและประชาชน ในช่วงเวลานี้มีวิกฤตการร์ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่ซึ่งมีผลกระทบต่อประเทศ ได้แก่ การเกิดการระบาดของโรค SARS ในกระเทศเวียดนาม (พ.ศ.2546) และมีแพทย์จากองค์การอนามัยโลกชาวอิตาลี ได้ไปทำการสอบสวนโรค และมีอาการป่วยขณะเดินทางเข้ามาประชุมในประเทศไทย จึงได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร แต่ต่อมาได้เสียชีวิต จึงเป็นจุดขับเคลื่อนที่สำคัญของระบบการเผ้าระวังโรคในผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มแข็ง และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดระบบการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสารณสุขของกรมฯ ในระยะเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีวิกฤตจองการระบาดของโรคไข้หวัดนก H5N1 ซึ่งทำให้เกิดวิกฤตทั่วโลกและมีกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจ และสาธารณสุขอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคนี้และมีการประบาดอย่างรุนแรงในสัตว์ปี ในช่วงปี พ.ศ.2547 – 2549 ซึ่งสำนักโรคติดต่อทั่วไป และสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมปศุสัตว์โดยอาศัยความร่วมมือที่เริ่มต้นมาจากยุคที่ผ่านมาและได้ขยายความร่วมมือไปยังส่วนราชการอื่นๆ อาทิ เช่นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น เพื่อระดมสรรพกำลังในการที่จะหยุดการระบาดของโรคไข้หวัดนก H5N1 และไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ซึ่งก็ประสบความสำเร็จด้วยดีในปี พ.ศ.2550 ซึ่งไม่พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ทั้งในคนและสัตว์ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

พ.ศ.2551-2556 ช่วงระหว่าง นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์


เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมควบคุมโรคถึงปัจจุบัน เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงประกาศใช้ยุทธศาสตร์กรมควบคุมโรค ปี พ.ศ.2552-2563 โดยมีวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรชั้นนำระดับนานาชาติที่สังคมเชื่อถือและไว้วางใจ เพื่อปกป้องกันประชาชนจากดรคและภัยสุขภาพ ด้านความเป็นเลิศทางวิชาการภายในปี 2563” และมี 6 ยุทธศาตร์ในการดำเนินการ ดังนั้นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการของสำนักโรคติดต่อทั่วไป จึงได้รับระบบเพื่อให้สอดคล้องการการทำงานเพื่อมู่งสู่วิสัยทัศน์ของกรมฯ โดยจัดแบ่งกลุ่มงานต่างๆ ออกเป็นกลุ่มพัฒนาวิชาการที่ 1-4 และกลุ่มสนับสนุนปฏิบัติการ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มยุทธศาสตร์และพัฒนาองค์กร กลุ่มพัฒนาภาคีเครือข่ายและสื่อสารสาธารณะ และกลุ่มบริหารทั่วไป อีกทั้งเพื่อให้ตามยุทธศาสตร์ของกรมฯ และประกอบกับเป็นช่วงที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้นหลายเรื่องคือ เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 (พ.ศ.2552) เกิดการระบาดทั่วโลก ดังนั้นสำนักโรคติดต่อทั่วไป จึงทำหน้าที่ของการสนันสนุนเวชภัณฑ์วัคซีน อุปกรณ์ให้กับหน่วยงานและประชาชนทั่วไปในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต่อมาจึงได้มีกลุ่มงานการปฏิบัติหน้าที่ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินขึ้น โดยนำรูปแบบ ICS (Incidence Command System) มาใช้ และได้จัดการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านภัยพิบัติที่สำคัญคือ เกิดมหาอุทกภัยในกรุงเทพมหานครและอีกหลายจังหวัดในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง (พ.ศ.2554) ซึ่งสำนักโรคติดต่อทั่วไป มีบทบาทอย่างมาก โดยมีคณะที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ (STAG) ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำการแก้ไขปัญหาทั้งด้านยุทธศาสตร์และวิชาการเรื่องต่างๆ เช่น การหลีกเลี่ยงจาการถูกไฟฟ้าดูดในขณะน้ำท่วม การป้องกันการจมน้ำในภาวะอุทกภัย การทำความสะอาดที่อยู่อาศัยและการกำจัดเชื้อรา การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เป็นผู้ป่วยเรื้องรัง และโรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดัน เป็นต้น นอกจากนี้ มีการจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งสิ่งจำเป็นการดำรงชีพในภาวะอุทกภัย และการเผยแพร่ให้ความรู้กับประชาชน เพื่อป้องกันราดระบาดของโรคติดต่อทั่วไป เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคเลปโตสไปโรสิส โรคตาแดง โรคน้ำกัดเท้า เป็นต้น ดังนั้น จึงเป็นการวางพื้นฐานการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน อย่างจริงจังและเป็นระบบ ซึ่งนำมาสู่การปฏิบัติในช่วงระยะต่อไป

พ.ศ.2556-ปัจจุบัน ซึ่งมี นายแพย์รุ่งเรือง กิจผาติ


เป็นผู้อำนวยการ เป็นอีกยุคซึ่งประสบกับอุบัติโรคติดต่อ ได้แก่ โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งมีความรุนแรงและระบาดในทวีปแอฟริกาด้านตะวันตก ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2557 และมีแนวโน้มที่จะระบาดไปในทวีปอื่นๆ เช่น อเมริกา ยุโรป เป็นต้น และเป็นเรื่องที่สำนักโรคติดต่อทั่วไปให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นโรคที่จะต้องมีการเฝ้าระวังระหว่างประเทศ โดยเน้นการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าจากประเทศที่มีการระบาดของโรค ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ของสำนักโรคติดค่อทั่วไปโดยตรง โดยขณะนี้สถานการของโรคยังไม่มีรายงานในประเทศไทย.

การปฏิบัติงานการควบคุมป้องกันโรคติดต่อทั่ว มีนโยบายเชิงรุกเข้าสู้พื้นที่และมุ่งสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และประโยชน์ในการป้องกันควบคุมโรค โดยเน้น 3P คือ

1.Product ทุกกลุ่มงานจะต้องมีผลผลิตที่เข้าถึงลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรค เพื่อนำสู่การควบคุมป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.Plan ต้องมีแผนที่เข้าถึงลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อศึกษาหาความต้องการ และความพึงพอใจของผลผลิตที่นำสู่การปฏิบัติและควบคุมโรคได้ ปรับปรุงผลผลิตให้มีประสิทธิภาพ และมีผลสัมฤทธิ์ต่อการควบคุมป้องกันโรค

3.People หมายถึงคนในองค์กร จะเน้นการส่งเสริ้มให้เกิการทำงานเป็นทีม ความรักองค์กรและสร้างความร่วมมือ สามารถทำงานทดแทนกันได้ มีความรู้หลายๆด้าน และมีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ และสามรถสร้างผลผลิตรวมถึงงานวิจัย และเกิดการยอมรับของลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการทำงานภายใต้ Concept One Health
 

88/21 สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ถ.ติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 โทรศัพท์. 02 5903162 อีเมล์ mophbgcd2019@gmail.com
Copyright @ 2013 www.thaigcd.ddc.moph.go.th All Rights Reserved. PrivacyPolicy | WebsitePolicy | WebsiteSecurityPolicy
Valid XHTML 1.0 Strict thaiwebaccessibility.com
Back to Top